สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวแฟนตาซี เวทมนตร์ พ่อมด อัศวินและมังกรเป็นสิ่งทีเติบโตมากับเราตั้งแต่ยังเด็ก พี่น้ำผึ้งกล้าพูดเลยว่านิยายแฟนตาซีเป็นอะไรที่เปิดโลกพี่มากๆ และมันทำให้พี่กล้าปลดปล่อยจินตนาการของตัวเองและใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ แล้วพี่ก็เชื่อว่ามีน้องๆ ชาวเด็กดีหลายคนที่ชื่นชอบนิยายแฟนตาซี วันนี้พี่ก็เลยขอเอาใจนักเขียนและนักอ่านสายแฟนตาซีด้วยการนำนิยายแฟนตาซี 13 เรื่องสุดเด็ดจากแต่ละประเทศทั่วโลกมาฝากค่ะ บอกเลยว่าแต่ละเรื่องนั้นควรค่าแก่การอ่านมาก จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูเลยจ้า
มหากาพย์โอดิสซีย์ประพันธ์ขึ้นราว 800 ปีก่อนคริสกาล เป็นบทกวีที่เล่าเรื่องราวต่อจากอีเลียดอันเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อกลับบ้านของวีรบุรุษ “โอดิซูส” หลังเสร็จสิ้นสงครามและการล่มสลายของกรุงทรอย เขาต้องเผชิญหน้ากับเทพเจ้ากรีกทั้งดีและร้าย รวมทั้งเหตุการณ์ผจญภัยต่างๆ มากมาย บอกเลยว่ามันส์มาก! ระหว่างนั้นทางฝ่ายลูกชายและเพเนโลป ผู้เป็นภรรยาของโอดิซูสก็ต้องต่อสู้กับกลุ่มคนที่พยายามขอเธอแต่งงานเพราะเข้าใจว่าโอดิซูสตายแล้ว อะไรจะพีคปานนี้
ทีเด็ดของนิยายเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า โอดิสซีย์เป็นผลงานของกวีตาบอด “โฮเมอร์” และเป็นนิยายที่มีอิทธิพลต่อนักเขียนคนอื่นๆ ในปัจจุบัน รวมทั้งนิยายเรื่องนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นรากฐานของวรรณกรรมตะวันตกยุคใหม่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่ไม่ควรพลาดเลย หลายคนอ่านแล้วถึงกับอยากเก็บเงินบินไปเที่ยวกรีซเลยค่ะ เชื่อหรือไม่ จนถึงทุกวันนี้นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไปยังหมู่เกาะที่มีมนต์ขลังของกรีซเพื่อรำลึกถึงการผจญภัยของโอดิซูสด้วย! อินในอินได้อีก
รู้จักกันดีในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษว่า “1001 Arabian Nights” หรือ “อาหรับราตรี” เวอร์ชั่นไทย ว่ากันว่านิทานโบราณนี้มีผู้แต่งหลายคน อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องเล่าของแต่ละท้องถิ่นที่เหล่านางทาสที่ถูกกักตัวไว้เล่าเพื่อคลายเหงา อาหรับราตรีได้รับการตีพิมพ์ในช่วงยุคทองของอิสลาม และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผลงานแฟนตาซีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
อาหรับราตรีเป็นนิทานที่ซ้อนนิทาน เล่าโดยบุตรีของผู้นำองคมนตรีอย่างเชเฮราซาด (Scheherazade) จริงๆ แล้วมันเป็นอุบายที่ไว้แก้พระทัยอันโหดร้ายของสุลต่านชาร์ยาร์ (Shahryar) กษัตริย์แห่งเปอร์เซียที่ประหารราชินีองค์แล้วองค์เล่า ด้วยความที่สุลต่านตื่นเต้น อยากรู้เรื่องราวตอนต่อไปใจจะขาดแต่เชเฮราซาดจงใจไม่เล่าสักที พระองค์จึงต้องยกเลิกการประหารชีวิตราชินีองค์นี้ ซึ่งนิทานในอาหรับราตรีที่น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดก็คงจะเป็นอาละดินกับตะเกียงวิเศษนี่แหละค่ะ พออ่านจบแล้วรู้สึกอยากไปขี่อูฐเมืองทะเลทรายเลยทีเดียว
รู้จักกันดีในชื่อ “บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก (Journey to the West)” หรือ “ไซอิ๋ว” นิยายคลาสสิคตลอดกาลของจีน แต่งโดยอู๋เฉิงเอิน ไซอิ๋วถูกเขียนขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง สมัยศตวรรษที่ 16 เรื่องราวการเดินทางไปยังชมพูทวีปของพระถังซัมจั๋งโดยมีสัตว์ 3 ตัวที่ไปเป็นเพื่อนคือ เห้งเจีย (ลิง) ตือโป๊ยก่าย (หมู) และซัวเจ๋ง (ปีศาจปลา)
ด้วยความที่เป็นนิยายผจญภัย เนื้อหาสนุกสนานและสอดแทรกแง่คิดคติสอนใจ ไซอิ๋วจึงเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชน แถมยังขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 4 วรรณกรรมเอกของจีนเลยทีเดียวค่ะ ความโด่งดังขอไซอิ๋วทำให้อาเธอร์ วาเลย์ นักเขียนชาวอังกฤษหยิบเรื่องนี้ไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ มีชื่อว่า “Monkey: A Folk-Tale of China” ด้วยจ้า ดีงามขนาดนี้ไม่หามาอ่านไม่ได้แล้วนะ
ผลงานชิ้นเอกของไอร์แลนด์อย่าง “แดร็คคูล่า” เล่มนี้เขียนโดยนักเขียนชาวไอริชนามว่า บราม สโตรเกอร์ เป็นนิยายแนวแฟนตาซีสยองขวัญที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถึงขั้นดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังเป็นนิยายที่มีอิทธิพลต่อนักเขียนคนอื่นๆ ด้วย
เรื่องราวของผีดิบดูดเลือดในโรมาเนียที่เดินทางมายังอังกฤษเพื่อเผยแพร่เผ่าพันธุ์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อโจนาธาน ทนายหนุ่มที่เดินทางจากลอนดอนไปทรานซิลเวเนียเพื่อทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับท่านเค้าท์แดร็คคูล่านั้นพบเหตุการณ์แปลกๆ และเขายังถูกจองจำอยู่ในปราสาทท่านเค้าท์ เมื่อหาทางเอาตัวรอดออกมาได้ก็ต้องหาวิธีกำจัดท่านเค้าท์ เห็นเป็นเรื่องแฟนตาซีแบบนี้แล้ว บอกเลยว่าภายในหนังสือยังอัดแน่นไปด้วยอิทธิพลทางศาสนาคริสต์ แถมโบสถ์ที่กล่าวถึงในเรื่องยังเป็นที่ฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวค่ะ
เมื่อพูดถึงอังกฤษ ก็ต้องนึกถึง J.R.R Tolkien เจ้าพ่อมหากาพย์นิยายแฟนตาซีชื่อก้องโลก เชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้จัก The Lord of the Ring กันแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งหนังสือแฟนตาซีจากปลายปากกาคนเดียวกันที่ไม่ควรพลาดก็คือ “The Hobbit” ค่ะ
เรื่องราวในยุคก่อนเกิด The Lord of the Ring การผจญภัยของฮอบบิทบิลโบ แบ๊กกิ้นส์และผองเพื่อนที่เดินทางไปยังดินแดนตะวันออกในมัชฌิมาโลก ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายรวมทั้งได้ต่อสู้กับมังกรสม็อกด้วย เพราะว่าเป็นนิยายแฟนตาซีผจญภัย ใช้การเล่นคำในภาษาต่างๆ ที่น่าสนใจ เลยทำให้เดอะฮอบบิทเป็นนิยายที่เด็กๆ ต่างก็ตกหลุมรัก การันตีด้วยยอดขายรวมแล้วมากกว่า 90 ล้านเล่มทั่วโลก
แม้ผลงานการประพันธ์ของ Madeleine L’Engle นักเขียนชาวอเมริกันอย่างเรื่อง “A Wrinkle in Time” เล่มนี้จะมีแฟนคลับเป็นกองทัพ แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หลังจากโดยปฏิเสธจากสำนักพิมพ์มากมายด้วยเหตุผลที่ว่า แก่นเรื่องออกแนว “ชั่วร้าย” แถมมีตัวเอกเป็นผู้หญิง ในที่สุด A Wrinkle in Time ก็ได้วางแผงลงบนชั้นหนังสือในปี 1962
A Wrinkle in Time เป็นนิยายผสมผสานระหว่างแฟนตาซีและไซไฟ เรื่องราวของเด็กหญิงที่ได้รับภารกิจเพื่อออกตามหาพ่อที่ติดอยู่ในจักรวาล บอกเลยว่านิยายเรื่องนี้ปังมากจนได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เตรียมเข้าฉายในปีนี้จ้า (สามารถอ่านนิยายที่ทำเป็นหนังฉายในปี 2018 ได้ที่นี่เลยจ้า จิ้ม)
ถ้าพูดถึงนิยายแฟนตาซีที่สามารถพาเราหนีออกไปจากโลกแห่งความจริงได้คงหนีไม่พ้น “The Neverending Story” หรือ “จินตนาการไม่รู้จบ” ของ Michael Ende เรื่องราวของบาสเตียนที่ใช้พื้นที่ในร้านหนังสือในการหลบหนีจากผู้คน เขาเลือกหยิบหนังสือแฟนตาซีเล่มหนึ่งมาอ่านก่อนจะพบว่าเหตุการณ์ในหนังสือมีโลเคชั่นใกล้ๆ บ้านเขา บาสเตียนจึงเริ่มสงสัยแล้วว่าบางที่นี่อาจเป็นเรื่องจริง และดินแดนแฟนตาเซียอาจต้องการความช่วยเหลือจากเขา บอกเลยว่า The Neverending Story เป็นหนังสือที่ให้แง่คิดดีมาก ถ้าน้องเป็นคอแฟนตาซีล่ะก็ จัดเรื่องนี้ไปเลยค่า
โนริโกะ โอกิวาระ ผู้เขียนเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานของ C.S. Lewis เธอตั้งใจจะเขียนนิยายแฟนตาซีตั้งแต่ยังเด็ก และต่อมาเธอก็กลายเป็นนักเขียนหนังสือเด็กที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น Dragon Sword and Wind Child เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงซายะที่พบว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นจิตวิญญาณของเด็กหญิงที่มาจากน้ำ เธอต้องทิ้งอคติและยอมรับชะตากรรมใหม่เพื่อปกป้องคนที่เธอเคยเกลียดชัง นิยายเรื่องนี้จะได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นจนได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 1988 (แต่เวอร์ชั่นอังกฤษได้รับการตีพิมพ์ในปี 1993) และโด่งดังสุดๆ ในปี 2011 ค่ะ
โลกของโซฟี (Sophie’s World) ผลงานของโยสไตน์ กอร์เดอร์ (Jostein Gaarder) กลายเป็นหนังสือขายดีในนอร์เวย์อย่างรวดเร็วจนกระทั่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาถัดมา เรื่องราวในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด 14 ปีของเด็กหญิงโซฟี เธอได้รับโปสการ์ดจากฮิลเด น้าค และได้รู้จักบทเรียนปรัชญาตะวันตกจากคุณครูปริศนานามว่า “อัลแบร์โต” ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเป็นปริศนาเมื่อเธอเผชิญหน้ากลับคนแปลกหน้าอย่าง “อัลเบิร์ต น้าค” ทำให้ทั้งโซฟีและอัลแบร์โตร่วมกันวางแผนบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายผู้นี้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ดูเหมือนจะเป็นแนวปรัชญา แต่บอกเลยว่าเป็นหนังสือที่มีเสน่ห์มากค่ะ
คอแฟนตาซีต้องชอบผลงานของเดวิด คาลเดอร์ (David Calder) อย่างเรื่อง “The Dragonslayer’s Apprentice” มากแน่ๆ มันคือนิยายที่มีกลิ่นของความเป็นเฟมินิสต์หน่อยๆ ตัวเอกของเรื่องชื่อ “แจ็คกี้” เธอเป็นผู้หญิงวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่และได้พาตัวเองหนีออกไปจากโลกที่ยกย่องผู้ชาย เธอพยายามโน้มน้าวผู้ปราบมังกรหนุ่ม (Dragonslayer) รับเธอไปฝึกงาน แม้ว่าเขาจะไม่โอเคเพราะเธอเป็นผู้หญิงก็ตาม!! ระหว่างที่ถูกเทรนแจ็คกี้ต้องต่อสู้ภายใต้ความกดดันมหาศาล ทั้งนี้เพื่อที่เธอจะได้กลายเป็นผู้ปราบมังกรเพศหญิงคนแรกในโลก!
คาลเดอร์วางตัวละครเอกเป็นผู้หญิงเพื่อเตือนให้เราตระหนักว่า ไม่ว่าจะเพศไหนๆ ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน มีความสามารถเหมือนกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร โอ้… อ่านแล้วช่างสะท้อนกับปัจจุบันนี้เหลือเกินค่ะ
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้จักประเทศนี้ ไม่ต้องแปลกใจค่ะ บาร์เบดอสคือประเทศเล็กๆ ในแถบทะเลแคริบเบียน มีพื้นที่แค่ 430 ตารางกิโลเมตรเอง! สำหรับนิยายเรื่อง Redemption in Indigo แต่งโดยคาเรน ลอร์ด นักเขียนชาวบาร์เบเดียน เธอได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านของชาวเซเนกัล เธอได้โยนเวทมนตร์ลงไปจนออกมาเป็นงานเขียนประเภพเทพนิยายสมัยใหม่ เป็นงานเขียนที่สะท้อนถึงจุดแข็งของมนุษย์ด้วยค่ะ
เรื่องราวของปามาที่ทิ้งสามีไม่ได้เรื่องและออกเดินทาง เธอได้พบกับพญามังกรลึกลับที่มอบอำนาจและพลังให้เธอ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะพอใจกับเรื่องนี้ เหตุการณ์วุ่นวายจึงเกิดขึ้น บอกเลยว่า Redemption in Indigo เป็นนิยายที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและจินตนาการสุดแสนมหัศจรรย์ นับว่าเป็นหนึ่งในวรรณกรรมยอดเยี่ยมของแคริบเบียนเลยค่ะ
ใครว่าอินเดียมีแต่รามเกียรติ์ที่เป็นแฟนตาซี นิยายเรื่อง The Devourers ผลงานของอินทรา ดาส ก็เป็นแฟนตาซีชื่อดังในอินเดียด้วยนะคะ นิยายนำเราไปสู่เมืองโกลกาตาสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นที่ๆ ศาสตราจารย์ Alok พบกับคนแปลกหน้าที่อ้างว่าเป็นมนุษย์หมาป่า ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อ Alok ไม่สามารถเก็บงำความสงสัยได้ นับว่า The Devourers เป็นส่วนผสมอันลงตัวระหว่างนิยายสยองขวัญและดาร์คแฟนตาซี เป็นนิยายที่ชวนเราไปค้นหาคำตอบถึงส่วนลึกในใจของมนุษย์ พบกับมนุษย์หมาป่าเวอร์ชั่นตะวันออกได้เลยที่ The Devourers ค่ะ
ยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจ (ของพี่น้ำผึ้ง) ตลอดกาลเลยกับหัวขโมยแห่งบารามอสเรื่องนี้ เชื่อว่านักเขียนและนักอ่านสายแฟนตาซีต้องเคยหยิบมาอ่านผ่านตาบ้างล่ะ เป็นนิยายที่เรียกได้ว่าเปิดโลกแฟนตาซีของใครหลายๆ คน เรื่องราวของเฟรินที่ต้องเข้าไปขโมยเจ้าชายในโรงเรียนพระราชา แต่ไปๆ มาๆ กลับวุ่นวายจนต้องออกเดินทางผจญภัยไปยังเมืองปีศาจ เนื้อหาเบาสบาย (ในเล่มแรก) แต่แฝงไปด้วยแง่คิดต่างๆ เรียกได้ว่าครบรส อ่านสนุกจนวางไม่ลงเลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับนิยาย 13 เรื่อง 13 รส จาก 13 ประเทศที่เรานำมาฝากในวันนี้ แต่ละเรื่องล้วนน่าสนใจมากๆ ถ้าใครเป็นคอแฟนตาซีต้องหามาอ่านให้ได้เลยค่ะ ใครเคยอ่านเรื่องไหนแล้วบ้างก็อย่าลืมเล่าให้เพื่อนๆ ให้ฟังด้วยนะคะ หรือใครชื่นชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษก็บอกได้เลยจ้า ส่วนครั้งหน้าพี่จะพาน้องๆ ไปส่องโลกหนังสือเรื่องอะไรนั้น รอติดตามเลยจ้า
วันนี้พี่ก็เลยขอเอาใจนักเขียนและนักอ่านสายแฟนตาซีด้วยการนำนิยายแฟนตาซี 13 เรื่องสุดเด็ดจากแต่ละประเทศทั่วโลกมาฝากค่ะ บอกเลยว่าแต่ละเรื่องนั้นควรค่าแก่การอ่านมาก จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูเลยจ้า